ตัวอย่างข้อสอบ ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ที่เคยออกสอบบ่อย สำหรับทดทวนความรู้เตรียมสอบ งานราชการตำแหน่งเกียวกับด้าน การเงินและบัญชี

ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับเมื่อใด (ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560)
ก.วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข.วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาหกสิบวัน
ค.วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาแปดสิบวัน
ง.วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเก้าสิบวัน

ตอบ. ก

ให้ใครเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ (ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560)
ก.รัฐมนตรีว่ามหาดไทย
ข.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ค.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ง.ปลัดการกระทรวงการคลัง

ตอบ. ข

ข้อใดหมายถึง “ราชการส่วนภูมิภาค”
ก.อธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะ เป็นนิติบุคคล
ข.นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกเมืองพัทยา
ค.ผู้ว่าราชการจังหวัด
ง.ผู้อำนวยการกรรมการผู้จัดการใหญ่

ตอบ. ค

ข้อใดหมายถึง “ผู้อำนวยการกรรมการผู้จัดการใหญ่”ข้อใดหมายถึง “ผู้อำนวยการกรรมการผู้จัดการใหญ่”
ก.อธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะ เป็นนิติบุคคล
ข.นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกเมืองพัทยา
ค.ผู้ว่าราชการจังหวัด
ง.ผู้อำนวยการกรรมการผู้จัดการใหญ่

ตอบ. ก.

ผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นเกินกว่าร้อยละยี่สิบห้า ในกิจการนั้นหรือในอัตราอื่นตามที่ผู้รักษาการตามระเบียบเห็นสมควรประกาศกำหนดสำหรับกิจการ บางประเภทหรือบางขนาด ข้อความขั้นต้นหมายถึงข้อใด
ก.ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ข.ผู้ถือหุ้นรายย่อย
ค.หุ้นส่วน ผู้จัดการ
ง.ผู้บริหาร

ตอบ ก. อธิบายเพิ่มเติม การมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลดังกล่าวข้างต้น ได้แก่ การที่บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลดังกล่าวมีความสัมพันธ์กันในลักษณะ ดังต่อไปนี้

(1) มีความสัมพันธ์กันในเชิงบริหาร โดยผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการดำเนินงานในกิจการของบุคคลธรรมดาหรือของนิติบุคคลรายหนึ่ง มีอำนาจหรือสามารถใช้อำนาจในการบริหารจัดการกิจการของบุคคลธรรมดา หรือของนิติบุคคลอีกรายหนึ่ง หรือหลายราย ที่เข้าเสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐนั้นในคราวเดียวกัน
(2) มีความสัมพันธ์กันในเชิงทุน โดยผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือผู้เป็นหุ้นส่วน ไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดอีกรายหนึ่งหรือหลายราย ที่เข้าเสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐ นั้นในคราวเดียวกัน
(3) มีความสัมพันธ์กันในลักษณะไขว้กันระหว่าง (1) และ (2) โดยผู้จัดการ หุ้นส่วน ผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการดำเนินงานในกิจการของบุคคลธรรมดา หรือของนิติบุคคลรายหนึ่ง เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดอีกรายหนึ่งหรือหลายราย ที่เข้าเสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอ ต่อหน่วยงานของรัฐนั้นในคราวเดียวกัน หรือในนัยกลับกัน

ข้อมูลรายละเอียด ของสินค้าที่ผู้ประกอบการได้ลงทะเบียนไว้ในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement : e – GP) ของกรมบัญชีกลาง โดยแสดงรายละเอียดของสินค้า ภาพสินค้า พร้อมคำบรรยายประกอบตามที่กรมบัญชีกลางกำหนดและให้หมายความรวมถึงงานบริการ หรืองานจ้างตามประเภทที่กรมบัญชีกลางกำหนดข้อความขั้นต้นหมายถึงข้อใด
ก.ระบบข้อมูลภาครัฐ
ข.ระบบข้อมูลหน่วยงานราชการ
ค.ระบบข้อมูลสินค้า
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ค.

ข้อใดหมายถึง “องค์กรตามรัฐธรรมนูญ”
ก.เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
ข.อธิการบดี
ค.ผู้อำนวยการหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะ เทียบเท่า
ง.อัยการสูงสุด

ตอบ  ง.

ข้อใดหมายถึง “องค์การมหาชน”
ก.เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
ข.อธิการบดี
ค.ผู้อำนวยการหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะ เทียบเท่า
ง.อัยการสูงสุด

ตอบ ค.

ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสายงานซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับ การจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุตามที่กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐ นั้นกำหนดหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ข้อความขั้นต้นหมายถึงข้อใด
ก.พนักงานราชการ
ข.หัวหน้าเจ้าหน้าที่
ค.หน่วยธุรการของศาล
ง.เจ้าหน้าที่

ตอบ ข. อธิบายเพิ่มเติม ข้อ 4 ในระเบียบนี้ “หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐ ดังต่อไปนี้

(1) ราชการส่วนกลาง หมายถึง อธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะ เป็นนิติบุคคล
(2) ราชการส่วนภูมิภาค หมายถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด
(3) ราชการส่วนท้องถิ่น หมายถึง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกเมืองพัทยา หรือผู้ดำรงตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า
(4) รัฐวิสาหกิจ หมายถึง ผู้ว่าการ ผู้อำนวยการกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือผู้ดำรงตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า
(5) องค์การมหาชน หมายถึง ผู้อำนวยการหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะ เทียบเท่า
(6) องค์กรอิสระ หมายถึง เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดิน เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
(7) องค์กรตามรัฐธรรมนูญ หมายถึง อัยการสูงสุด
(8) หน่วยธุรการของศาล หมายถึง เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
(9) มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ หมายถึง อธิการบดี
(10) หน่วยงานสังกัดรัฐสภาหรือในกำกับของรัฐสภา หมายถึง เลขาธิการวุฒิสภา เลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเมือง
(11) หน่วยงานอิสระของรัฐ หมายถึง เลขาธิการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่น ที่มีฐานะเทียบเท่า
(12) หน่วยงานอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง หมายถึง ผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงาน ตามกฎหมายจัดตั้งหน่วยงานนั้น

ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับ “การมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล”
ก.มีความสัมพันธ์กันในเชิงบริหาร
ข.มีความสัมพันธ์กันในเชิงทุน
ค.มีความสัมพันธ์กันในลักษณะไขว้กัน
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.

ข้อใดถูก “ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติ”
ก.คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์
ข.คณะกรรมการซื้อหรือจ้าง
ค.คณะกรรมการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.

ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของภาครัฐโดยรวม หน่วยงานของรัฐใด จะมอบอำนาจให้หน่วยงานของรัฐแห่งอื่นดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแทนก็ให้กระทำได้โดยให้ผู้มอบอำนาจส่งสำเนาหลักฐานการมอบอำนาจให้ใครทราบ
ก.ผู้ว่าราชการจังหวัด
ข.สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
ค.กระทรวงกลาโหม
ง.รัฐมนตรี

ตอบ ข.

ใครมีหน้าที่ทำแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างผ่านทางระบบ จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐและผู้ประกอบการใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ ในการดำเนินการ
ก.คณะกรรมการรัฐมนตรี
ข.สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
ค.กรมบัญชีกลาง
ง.กระทรวงการคลัง

ตอบ ค.

ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับ “แผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี”
ก.ชื่อโครงการที่จะจัดซื้อจัดจ้าง
ข.วงเงินที่จะจัดซื้อจัดจ้างโดยประมาณ
ค.ระยะเวลาที่คาดว่าจะจัดซื้อจัดจ้าง
ง.ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. อธิบายเพิ่มเติม แผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีให้ประกอบด้วยรายการอย่างน้อย ดังต่อไปนี้

(1) ชื่อโครงการที่จะจัดซื้อจัดจ้าง
(2) วงเงินที่จะจัดซื้อจัดจ้างโดยประมาณ
(3) ระยะเวลาที่คาดว่าจะจัดซื้อจัดจ้าง
(4) รายการอื่นตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด

เมื่อหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้าง จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้มีอำนาจในการพิจารณางบประมาณแล้ว ให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่ได้รับ มอบหมายในการปฏิบัติงานนั้นจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีเสนอให้ใคร เพื่อขอความเห็นชอบ
ก.กรมบัญชีกลาง
ข.หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
ค.สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ข.

ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับ “การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ”
ก.ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน นิติบุคคล บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุม(ถ้ามี) พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง
ข.ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นบุคคลธรรมดาหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ยื่นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้นั้น สำเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเข้าเป็นหุ้นส่วน (ถ้ามี) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วน พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง
ค.ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นผู้ยื่นข้อเสนอร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้า ให้ยื่นสำเนาสัญญาของการเข้าร่วมค้า สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ร่วมค้า
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. อธิบายเพิ่มเติม ข้อ 15 ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายตามข้อ 14 ให้เจ้าหน้าที่ กำหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอยื่นเอกสารแสดงคุณสมบัติแยกมาต่างหาก โดยอย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้

(1) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นนิติบุคคล

  • ก. ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน นิติบุคคล บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุม(ถ้ามี) พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง
  • ข. บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน นิติบุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุม(ถ้ามี) และบัญชีรายชื่อ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (ถ้ามี) พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง

(2) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นบุคคลธรรมดาหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ยื่นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้นั้น สำเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเข้าเป็นหุ้นส่วน (ถ้ามี) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วน พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง
(3) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นผู้ยื่นข้อเสนอร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้า ให้ยื่นสำเนาสัญญาของการเข้าร่วมค้า สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ร่วมค้า และในกรณีที่ผู้เข้าร่วมค้าฝ่ายใด เป็นบุคคลธรรมดาที่มิได้ถือสัญชาติไทย ก็ให้ยื่นสำเนาหนังสือเดินทาง หรือถ้าผู้ร่วมค้าฝ่ายใดเป็นนิติบุคคล ให้ยื่นเอกสารตามที่ระบุไว้ใน (1)
(4) เอกสารอื่นตามที่หน่วยงานของกำหนดเช่น สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์สำเนาใบทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อใดไม่ใช่หลักฐานประกอบเมื่อสิ้นสุดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในแต่ละโครงการ
ก.รายงานขอซื้อหรือขอจ้าง
ข.ข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอทุกราย
ค.ประกาศและเอกสารเชิญชวน
ง.แผนการจัดซื้อจัดจ้าง

ตอบ ง. อธิบายเพิ่มเติม ข้อ 16 เมื่อสิ้นสุดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในแต่ละโครงการ ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มี การบันทึกรายงานผลการพิจารณา รายละเอียดวิธีการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างพร้อมทั้งเอกสาร หลักฐานประกอบ ตามรายการดังต่อไปนี้

(1) รายงานขอซื้อหรือขอจ้างตามความในหมวด 2 ส่วนที่ 2 หมวด 3 ส่วนที่ 2 และหมวด 4 ส่วนที่ 2 แล้วแต่กรณี
(2) เอกสารเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็นร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ ของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง และผลการพิจารณาในครั้งนั้น (ถ้ามี)
(3) ประกาศและเอกสารเชิญชวน หรือหนังสือเชิญชวน และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง
(4) ข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอทุกราย
(5) บันทึกรายงานผลการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ
(6) ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือก
(7) สัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือ รวมทั้งการแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือ (ถ้ามี)
(8) บันทึกรายงานผลการตรวจรับพัสดุ

ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับ “รายงานขอซื้อหรือขอจ้าง”
ก.เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องซื้อหรือจ้าง
ข.ราคากลางของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง
ค.กำหนดเวลาที่ต้องการใช้พัสดุนั้นหรือให้งานนั้นแล้วเสร็จ
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. อธิบายเพิ่มเติม ข้อ 22 ในการซื้อหรือจ้างแต่ละวิธี นอกจากการซื้อที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามข้อ 23 และข้อ 79 วรรคสอง ให้เจ้าหน้าที่จัดทำรายงานขอซื้อหรือขอจ้างเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เพื่อขอความเห็นชอบ โดยเสนอผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ตามรายการดังต่อไปนี้

(1) เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องซื้อหรือจ้าง
(2) ขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุหรือแบบรูปรายการ งานก่อสร้างที่จะซื้อหรือจ้าง แล้วแต่กรณี
(3) ราคากลางของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง
(4) วงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง โดยให้ระบุวงเงินงบประมาณ ถ้าไม่มีวงเงินดังกล่าวให้ระบุวงเงิน ที่ประมาณว่าจะซื้อหรือจ้างในครั้งนั้น
(5) กำหนดเวลาที่ต้องการใช้พัสดุนั้นหรือให้งานนั้นแล้วเสร็จ
(6) วิธีที่จะซื้อหรือจ้างและเหตุผลที่ต้องซื้อหรือจ้างโดยวิธีนั้น
(7) หลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ
(8) ข้อเสนออื่น ๆ เช่น การขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จำเป็นในการซื้อ หรือจ้าง การออกประกาศและเอกสารเชิญชวน และหนังสือเชิญชวน

ในการซื้อที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ให้เจ้าหน้าที่จัดทำรายงานเสนอให้ใคร
ก. หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
ข. คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง
ค. คณะกรรมการจัดซื้อที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง
ง. คณะกรรมการขอซื้อและขอจ้าง

ตอบ ก.

ข้อใดหมายถึง การจัดทำรายงานการซื้อที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง
ก. เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องซื้อ
ข. ราคาประเมินของทางราชการในท้องที่นั้น
ค. วิธีที่จะซื้อและเหตุผลที่ต้องซื้อโดยวิธีนั้น
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. อธิบายเพิ่มเติม ข้อ 23 ในการซื้อที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ให้เจ้าหน้าที่จัดทำรายงานเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ โดยเสนอผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ตามรายการดังต่อไปนี้

(1) เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องซื้อ
(2) รายละเอียดของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ต้องการซื้อ รวมทั้งเนื้อที่และท้องที่ที่ต้องการ
(3) ราคาประเมินของทางราชการในท้องที่นั้น
(4) ราคาซื้อขายของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างใกล้เคียงบริเวณที่จะซื้อครั้งหลังสุดประมาณ ๓ ราย
(5) วงเงินที่จะซื้อ โดยให้ระบุวงเงินงบประมาณ ถ้าไม่มีวงเงินดังกล่าวให้ระบุวงเงิน ที่ประมาณว่าจะซื้อในครั้งนั้น
(6) วิธีที่จะซื้อและเหตุผลที่ต้องซื้อโดยวิธีนั้น
(7) ข้อเสนออื่น ๆ เช่น การขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จำเป็นในการซื้อ

ข้อใดไม่ใช่ “คณะกรรมการซื้อหรือจ้าง”
ก.คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
ข.คณะกรรมการพิจารณาผลการสอบราคา
ค.คณะกรรมการบริหารงบประมาณ
ง.คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ

ตอบ ค. อธิบายเพิ่มเติม ข้อ 25 ในการดำเนินการซื้อหรือจ้างแต่ละครั้ง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้ง คณะกรรมการซื้อหรือจ้างขึ้น เพื่อปฏิบัติการตามระเบียบนี้ พร้อมกับกำหนดระยะเวลาในการพิจารณา ของคณะกรรมการ แล้วแต่กรณี คือ

(1) คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
(2) คณะกรรมการพิจารณาผลการสอบราคา
(3) คณะกรรมการซื้อหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือก
(4) คณะกรรมการซื้อหรือจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
(5) คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ

ให้คณะกรรมการซื้อหรือจ้างแต่ละคณะ รายงานผลการพิจารณาต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ภายในระยะเวลาที่กำหนดถ้ามีเหตุที่ทำให้การรายงานล่าช้า ให้เสนอใครเป็นผู้พิจารณา ขยายเวลาให้ตามความจำเป็น
ก.กรมบัญชีกลาง
ข.ปลัดกระทรวงการคลัง
ค.หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
ง.คณะกรรมการนายกรัฐมนตรี

ตอบ ค.

การซื้อหรือจ้าง กระทำได้กี่วิธี มีอะไรบ้าง
ก. 1 วิธี วิธีเฉพาะเจาะจง
ข. 2 วิธี วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป วิธีคัดเลือก
ค. 3 วิธี วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป วิธีคัดเลือก วิธีเฉพาะเจาะจง
ง. 4 วิธี วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป วิธีคัดเลือก วิธีเฉพาะเจาะจง วิธีสอบราคา

ตอบ ค. อธิบายเพิ่มเติม ข้อ 28 การซื้อหรือจ้าง กระทำได้ 3 วิธี ดังนี้

(1) วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป
(2) วิธีคัดเลือก
(3) วิธีเฉพาะเจาะจง

การซื้อหรือจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป กระทำได้กี่วิธี มีอะไรบ้าง
ก. 1 วิธี วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
ข. 2 วิธี วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
ค. 3 วิธี วิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ วิธีสอบราคา
ง. 4 วิธี วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป วิธีคัดเลือก วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ วิธีสอบราคา

ตอบ ค. อธิบายเพิ่มเติม ข้อ 29 การซื้อหรือจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป กระทำได้ 3 วิธี ดังนี้
(1) วิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์
(2) วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
(3) วิธีสอบราคา

การซื้อหรือจ้างที่มีรายละเอียดคุณลักษณะ เฉพาะของพัสดุที่ไม่ซับซ้อนหรือเป็นสินค้าหรืองานบริการที่มีมาตรฐาน และได้กำหนดไว้ในระบบข้อมูลสินค้า (e – catalog) โดยให้ดำเนินการในระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Market : e – market) ข้อความดังกล่าวหมายถึงข้อใด
ก.วิธีเฉพาะเจาะจง
ข.วิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์
ค.วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
ง.วิธีสอบราคา

ตอบ ข.

การซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท และเป็นสินค้าหรืองานบริการที่ไม่ได้กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะ เฉพาะของพัสดุไว้ในระบบข้อมูลสินค้า (e – catalog) โดยให้ดำเนินการในระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ข้อความดังกล่าวหมายถึงข้อใด
ก.วิธีเฉพาะเจาะจง
ข.วิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์
ค.วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
ง.วิธีสอบราคา

ตอบ ค.

การซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 500,000 บาทให้กระทำดำได้ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดในการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต ทำให้ไม่สามารถดำเนินการผ่านระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์หรือระบบ ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ได้ ข้อความดังกล่าวหมายถึงข้อใด
ก.วิธีเฉพาะเจาะจง
ข.วิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์
ค.วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
ง.วิธีสอบราคา

ตอบ ง.

การซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาทเมื่อกำหนดวันเสนอราคาด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ให้ดำเนินการตามข้อใด
ก.ให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์
ข.ให้เสนอราคาภายในเวลาที่กำหนด
ค.สามารถเสนอราคาได้เพียงครั้งเดียว
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.

ในกรณีที่ปรากฏว่าราคาของผู้เสนอราคารายต่ำสุดที่ชนะการเสนอราคายังสูงกว่า วงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามข้อใด
ก.ต่อรองราคากับผู้เสนอราคารายดังกล่าวผ่านทางระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์ให้ต่ำสุดเท่าที่ จะทำได้
ข.ให้แจ้งผู้เสนอราคาที่เสนอราคาถูกต้องตรงตาม เงื่อนไขที่กำหนดไว้ในเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ทุกรายผ่านทางระบบตลาด อิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้เสนอราคาใหม่พร้อมกัน
ค.ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้า เจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณายกเลิกการซื้อหรือจ้างในครั้งนั้น
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. อธิบายเพิ่มเติม ข้อ 39 ในกรณีที่ปรากฏว่าราคาของผู้เสนอราคารายต่ำสุดที่ชนะการเสนอราคายังสูงกว่า วงเงินที่จะซื้อหรือจ้างตามข้อ ๒๒ ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการดังนี้

(1) ต่อรองราคากับผู้เสนอราคารายดังกล่าวผ่านทางระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์ให้ต่ำสุดเท่าที่ จะทำได้หากผู้เสนอราคารายนั้นยอมลดราคาและยื่นใบเสนอราคาผ่านทางระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์ แล้ว หากราคาที่เสนอใหม่ไม่สูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง หรือสูงกว่าแต่ไม่เกินร้อยละสิบของวงเงิน ที่จะซื้อหรือจ้าง หรือต่อรองแล้วไม่ยอมลดราคาอีก แต่ส่วนที่สูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้างนั้นไม่เกิน ร้อยละสิบของวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง ถ้าเห็นว่าราคาดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสมก็ให้เสนอซื้อหรือจ้าง จากผู้เสนอราคารายนั้น
(2) ถ้าดำเนินการตาม (1) แล้วไม่ได้ผล ให้แจ้งผู้เสนอราคาที่เสนอราคาถูกต้องตรงตาม เงื่อนไขที่กำหนดไว้ในเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ทุกรายผ่านทางระบบตลาด อิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้เสนอราคาใหม่พร้อมกัน โดยให้ยื่นใบเสนอราคาผ่านทางระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ภายในเวลาที่หน่วยงานของรัฐกำหนดหากผู้เสนอราคารายใดไม่ยื่นใบเสนอราคาใหม่ ให้ถือว่าผู้เสนอราคา รายนั้นยืนราคาตามที่เสนอไว้เดิม หากปรากฏว่าผู้เสนอราคาต่ำสุดในการเสนอราคาครั้งใหม่เสนอราคา ไม่สูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง หรือสูงกว่าแต่ส่วนที่สูงกว่านั้นไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินที่จะซื้อ หรือจ้าง ถ้าเห็นว่าราคาดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสมก็ให้เสนอซื้อหรือจ้างจากผู้เสนอราคารายนั้น
(3) ถ้าดำเนินการตาม (2) แล้วไม่ได้ผล ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้า เจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณายกเลิกการซื้อหรือจ้างในครั้งนั้น ทั้งนี้ การดำเนินการซื้อหรือจ้างครั้งใหม่ให้นำความในข้อ 38 วรรคสาม มาใช้บังคับโดยอนุโลม

การซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 5,000,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000,000 บาท ให้กำหนดไม่น้อยกว่ากี่วันทำการ
ก.ไม่น้อยกว่า 5 วัน
ข.ไม่น้อยกว่า 10 วัน
ค.ไม่น้อยกว่า 12 วัน
ง.ไม่น้อยกว่า 20 วัน

ตอบ ข.

การซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 50,000,000 บาท ขึ้นไป ให้กำหนดไม่น้อยกว่ากี่วันทำการ
ก.ไม่น้อยกว่า 5 วัน
ข.ไม่น้อยกว่า 10 วัน
ค.ไม่น้อยกว่า 12 วัน
ง.ไม่น้อยกว่า 20 วัน

ตอบ ง. อธิบายเพิ่มเติม ข้อ 51 การเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ตามข้อ 48 ให้คำนึงถึงระยะเวลาในการให้ผู้ประกอบการเตรียมการจัดทำเอกสารเพื่อยื่นข้อเสนอด้วย โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

(1) การซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท ให้กำหนดไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ
(2) การซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 5,000,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000,000 บาท ให้กำหนดไม่น้อยกว่า 10 วันทำการ
(3) การซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 10,000,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000,000 บาท ให้กำหนดไม่น้อยกว่า 12 วันทำการ
(4) การซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 50,000,000 บาท ขึ้นไป ให้กำหนดไม่น้อยกว่า 20 วันทำการ

จัดทำรายงานผลการพิจารณาและความเห็นพร้อมด้วยเอกสารที่ได้รับไว้ทั้งหมดเสนอ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ รายงานผลการ พิจารณาดังกล่าว ให้ประกอบด้วยรายการอย่างน้อยตามข้อใด
ก.รายการพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง
ข.รายชื่อผู้ยื่นข้อเสนอ ราคาที่เสนอ และข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอทุกราย
ค.รายชื่อผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่านการคัดเลือกว่าไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.

การจ้างออกแบบรวมก่อสร้างสามารถดำเนินการได้ กี่รูปแบบ
ก. 2 รูปแบบ
ข.3 รูปแบบ
ค.4 รูปแบบ
ง.5 รูปแบบ

ตอบ ข.

ข้อใดไม่ใช่รูปแบบรวมการจ้างออกแบบก่อสร้าง
ก.จ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้าง
ข.จ้างออกแบบควบคู่ก่อสร้างพร้อมจัดหาเงินทุน
ค.จ้างออกแบบควบคุมการก่อสร้าง
ง.จ้างก่อสร้างพร้อมจัดหาเงินทุน

ตอบ ค. อธิบายเพิ่มเติม การจ้างออกแบบรวมก่อสร้างสามารถดำเนินการได้ 3 รูปแบบ ดังนี้

(1) จ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้าง (Design & Build Project) คือ โครงการที่มีวงเงินลงทุน และเทคโนโลยีดำเนินการสูง รวมทั้งสามารถจัดทำโครงการได้หลายรูปแบบ โดยส่วนใหญ่จะเป็น โครงการใหม่ที่ไม่เคยมีการดำเนินการมาก่อนในประเทศ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องใช้ผู้รับเหมาดำเนินโครงการที่มีความรู้ ความสามารถ และเทคนิคในการดำเนินการพิเศษ โดยเฉพาะการชำระเงินค่าดำเนินโครงการจะมีรูปแบบการจ่ายชำระเงินตามความก้าวหน้าของงานเป็นงวด ๆ (installment)
(2) จ้างก่อสร้างพร้อมจัดหาเงินทุน (Turnkey Project) คือ โครงการที่ผู้ว่าจ้างจะจัดหา ผู้รับจ้างดำเนินโครงการจนแล้วเสร็จ จึงจะมีการชำระเงินค่าดำเนินโครงการ ซึ่งผู้รับจ้างอาจต้องมีหน้าที่ ในการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการด้วย รวมทั้งผู้ว่าจ้างต้องมีวงเงินดำเนินโครงการอ้างอิง ได้ประกอบการพิจารณาโครงการ (Reference Based Price)
(3) จ้างออกแบบควบคู่ก่อสร้างพร้อมจัดหาเงินทุน (หรือจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จเต็มรูปแบบ) คือ โครงการที่ใช้รูปแบบดำเนินโครงการทั้ง ๒ รูปแบบ โดยผู้รับจ้างเป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างควบคู่กัน (Design & Build) รวมทั้งทำหน้าที่จัดหาเงินทุนดำเนินโครงการ ซึ่งผู้ว่าจ้างจะชำระเงินค่าดำเนินโครงการ เมื่อแล้วเสร็จ

ข้อใดไม่ใช่การสั่งซื้อหรือสั่งจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป
ก.หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ไม่เกิน 20,000,000 บาท
ข.หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ไม่เกิน 100,000,000 บาท
ค.ผู้มีอำนาจเหนือขึ้นไปหนึ่งชั้น เกิน 100,000,000 บาท
ง.หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ไม่เกิน 200,000,000 บาท

ตอบ ง.

ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับหลักการจ่ายเงินค่าพัสดุล่วงหน้า
ก.การซื้อหรือการจ้างจากหน่วยงานของรัฐ จ่ายได้ไม่เกินร้อยละห้าสิบของราคาซื้อ หรือราคาจ้าง
ข.การซื้อพัสดุจากสถาบันของรัฐในต่างประเทศ หรือจากหน่วยงานอื่นในต่างประเทศ ซึ่งต้องดำเนินการผ่านองค์การระหว่างประเทศ
ค.การบอกรับวารสารหรือการสั่งจองหนังสือ
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. อธิบายเพิ่มเติม การจ่ายเงินค่าพัสดุล่วงหน้าให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นคู่สัญญาจะกระทำมิได้เว้นแต่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่ามีความจำเป็นจะต้องจ่าย และมีการกำหนดเงื่อนไขไว้ก่อนการ ทำสัญญาหรือข้อตกลง ให้กระทำได้เฉพาะกรณีและตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(1) การซื้อหรือการจ้างจากหน่วยงานของรัฐ จ่ายได้ไม่เกินร้อยละห้าสิบของราคาซื้อ หรือราคาจ้าง
(2) การซื้อพัสดุจากสถาบันของรัฐในต่างประเทศ หรือจากหน่วยงานอื่นในต่างประเทศ ซึ่งต้องดำเนินการผ่านองค์การระหว่างประเทศ หรือการซื้อเครื่องมือวิทยาศาสตร์ หรือพัสดุอื่น ที่ผู้รักษาการตามระเบียบประกาศกำหนดซึ่งจำเป็นต้องซื้อจากผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายโดยตรง ในต่างประเทศ ให้จ่ายได้ตามที่ตกลงกับสถาบันของรัฐหรือองค์การระหว่างประเทศ หรือตามเงื่อนไข ที่ผู้ขายกำหนดแล้วแต่กรณี
(3) การบอกรับวารสารหรือการสั่งจองหนังสือ หรือการจัดซื้อฐานข้อมูลสำเร็จรูปที่มีลักษณะจะต้องบอกรับเป็นสมาชิกก่อน และมีกำหนดการออกเป็นวาระดังเช่นวารสาร หรือการบอกรับ เป็นสมาชิกเพื่อการใช้ประโยชน์เรียกค้นหาข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ โดยอาศัยระบบ เครือข่ายสารสนเทศ ให้จ่ายได้เท่าที่จ่ายจริง
(4) การซื้อหรือการจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป วิธีคัดเลือก และวิธีเฉพาะเจาะจง นอกจากกรณีตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2)ให้จ่ายได้ไม่เกินร้อยละสิบห้าของราคาซื้อหรือราคาจ้าง แต่ทั้งนี้ จะต้องกำหนดอัตราค่าพัสดุที่จะจ่ายล่วงหน้าไว้เป็นเงื่อนไขในประกาศและเอกสารเชิญชวน หรือหนังสือเชิญชวน แล้วแต่กรณีด้วย

การจ่ายเงินตามแบบธรรมเนียมการค้าระหว่างประเทศ โดยวิธีใช้ดราฟต์กรณีที่วงเงินไม่เกินกี่บาท
ก.300,000 บาท
ข.400,000 บาท
ค.500,000 บาท
ง.600,000 บาท

ตอบ ค

ข้อใดเป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์
ก.เช่าที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในราชการ
ข.เช่าสถานที่เพื่อใช้เป็นที่ทำการในกรณีที่ไม่มีสถานที่ของหน่วยงานของรัฐ
ค.เช่าสถานที่เพื่อใช้เป็นที่พักสำหรับผู้มีสิทธิเบิกค่าเช่าที่พักตามระเบียบของทางราชการ
ง. ถูกทุกข้อข้อใดเป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์

ตอบ ง. อธิบายเพิ่มเติม การเช่าอสังหาริมทรัพย์ ให้กระทำได้ในกรณี ดังต่อไปนี้

(1) เช่าที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในราชการ
(2) เช่าสถานที่เพื่อใช้เป็นที่ทำการในกรณีที่ไม่มีสถานที่ของหน่วยงานของรัฐ หรือมีแต่ไม่เพียงพอ และถ้าสถานที่เช่านั้นกว้างขวางพอ จะใช้เป็นที่พักของผู้ซึ่งมีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านตามระเบียบของทางราชการ หรือของหน่วยงานของรัฐด้วยก็ได้
(3) เช่าสถานที่เพื่อใช้เป็นที่พักสำหรับผู้มีสิทธิเบิกค่าเช่าที่พักตามระเบียบของทางราชการ หรือของหน่วยงานของรัฐในกรณีที่ต้องการประหยัดเงินงบประมาณ
(4) เช่าสถานที่เพื่อใช้เป็นที่เก็บพัสดุของหน่วยงานของรัฐในกรณีที่ไม่มีสถานที่เก็บเพียงพอ การเช่าให้ดำเนินการเจรจาตกลงราคากับผู้ให้เช่าโดยตรง

ในกรณีต้องมีการแลกเปลี่ยนพัสดุ ให้เจ้าหน้าที่รายงานต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาสั่งการ โดยให้รายงานตามรายการข้อใด
ก.เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องแลกเปลี่ยน
ข.รายละเอียดของพัสดุที่จะนำไปแลกเปลี่ยน
ค.พัสดุที่จะรับแลกเปลี่ยน
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. อธิบายเพิ่มเติม ในกรณีต้องมีการแลกเปลี่ยนพัสดุ ให้เจ้าหน้าที่รายงานต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาสั่งการ โดยให้รายงานตามรายการ ดังต่อไปนี้

(1) เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องแลกเปลี่ยน
(2) รายละเอียดของพัสดุที่จะนำไปแลกเปลี่ยน
(3) ราคาที่ซื้อหรือได้มาของพัสดุที่จะนำไปแลกเปลี่ยน และราคาที่จะแลกเปลี่ยนได้ โดยประมาณ
(4) พัสดุที่จะรับแลกเปลี่ยน และให้ระบุว่าจะแลกเปลี่ยนกับหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน
(5) ข้อเสนออื่น ๆ (ถ้ามี)

ข้อใดคืออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการแลกเปลี่ยน
ก.ตรวจสอบและประเมินราคาพัสดุที่ต้องการแลกเปลี่ยนตามสภาพปัจจุบันของพัสดุนั้น
ข.ต่อรองกับผู้เสนอราคารายที่คณะกรรมการเห็นสมควรแลกเปลี่ยน
ค.เสนอความเห็นต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อพิจารณาสั่งการ
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.

ครุภัณฑ์ที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนเมื่อลงทะเบียนครุภัณฑ์ของหน่วยงานของรัฐนั้นแล้ว ให้แจ้งสำนักงบประมาณหรือหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ควบคุมพัสดุนั้น และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน แล้วแต่กรณี ทราบภายในกี่วัน นับแต่วันที่ได้รับครุภัณฑ
ก.สิบห้าวัน
ข.สามสิบวัน
ค.สี่สิบห้าวัน
ง.หกสิบวัน

ตอบ ข.

ในการจ้างที่ปรึกษาให้เจ้าหน้าที่จัดทำรายงานขอจ้างที่ปรึกษาเสนอหัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ โดยเสนอผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ตามรายการใด
ก.เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องจ้างที่ปรึกษา
ข.ขอบเขตของงานจ้างที่ปรึกษา
ค.ราคากลางงานจ้างที่ปรึกษา
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. อธิบายเพิ่มเติม ในการจ้างที่ปรึกษาให้เจ้าหน้าที่จัดทำรายงานขอจ้างที่ปรึกษาเสนอหัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ โดยเสนอผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ตามรายการดังต่อไปนี้

(1) เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องจ้างที่ปรึกษา
(2) ขอบเขตของงานจ้างที่ปรึกษา
(3) คุณสมบัติของที่ปรึกษาจะจ้าง
(4) ราคากลางงานจ้างที่ปรึกษา
(5) วงเงินที่จะจ้างที่ปรึกษา โดยให้ระบุวงเงินงบประมาณ ถ้าไม่มีวงเงินดังกล่าวให้ระบุ วงเงินที่ประมาณว่าจะจ้างในครั้งนั้น
(6) กำหนดเวลาแล้วเสร็จของงานจ้างที่ปรึกษา
(7) วิธีจ้างที่ปรึกษา และเหตุผลที่ต้องจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีนั้น
(8) หลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ
(9) ข้อเสนออื่น ๆ เช่น การขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จำเป็นในการจ้าง ที่ปรึกษา การออกเอกสารการจ้างที่ปรึกษาและประกาศเผยแพร่

ข้อใดไม่ใช่ คณะกรรมการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษา
ก.คณะกรรมการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
ข.คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างที่ปรึกษา
ค.คณะกรรมการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีประกาศ
ง.คณะกรรมการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยววิธีคัดเลือก

ตอบ ค. อธิบายเพิ่มเติม ในการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาแต่ละครั้ง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้ง คณะกรรมการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาขึ้น เพื่อปฏิบัติการตามระเบียบนี้ พร้อมกับกำหนดระยะเวลา ในการพิจารณาของคณะกรรมการ แล้วแต่กรณี คือ
(1) คณะกรรมการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป
(2) คณะกรรมการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีคัดเลือก
(3) คณะกรรมการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
(4) คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างที่ปรึกษา

การจ้างที่ปรึกษา กระทำได้กี่วิธีและมีอะไรบ้าง
ก. 2 วิธี วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป วิธีคัดเลือก
ข. 3 วิธี วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป วิธีคัดเลือก วิธีเฉพาะเจาะจง
ค.4 วิธี วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป วิธีประกาศ วิธีเปิดรับสมัครตามคุณสมบัติ วิธีคัดเลือก
ง. 5 วิธี วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป วิธีประกาศ วิธีเปิดรับสมัครตามคุณสมบัติ วิธีคัดเลือก วิธีเฉพาะเจาะจง

ตอบ ข.

ใครเป็นคนจัดส่งประกาศและเอกสารจ้างที่ปรึกษาให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์
ก.กระทรวงการคลัง
ข.กระทรวงมหาดไทย
ค.กรมบัญชีกลาง
ง.คณะกรรมการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษา

ตอบ ค.

ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง
ก.ต้องไม่มีส่วนได้เสียกับผู้ประกอบการงานก่อสร้างในงาน
ข.จะต้องมีสัญชาติไทยและเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมหรือวิศวกรรมสำหรับงานว่าจ้าง ตามที่กำหนด
ค.มีความรู้และมีความชำนาญงานก่อสร้างให้เหมาะสมกับสภาพงานก่อสร้างนั้น ๆ
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.

การซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้มีการวางหลักประกันการเสนอราคา โดยให้ใช้หลักประกันตามข้อใด
ก.เช็คที่ธนาคารเซ็นสั่งจ่าย
ข.พันธบัตรรัฐบาลไทย
ค.หนังสือค้ำประกันของบริษัทเงินทุนหรือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาต
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.

ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของ “คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานซื้อหรืองานจ้าง”
ก.ตรวจรับพัสดุ ณ. ที่ทำการของผู้ใช้พัสดุนั้น
ข.ตรวจสอบรายงานการปฏิบัติงานของผู้รับจ้าง
ค.ให้ตรวจรับพัสดุในวันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนำพัสดุมาส่งและให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้น โดยเร็วที่สุด
ง.ตรวจรับพัสดุให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักฐานที่ตกลงกันไว้

ตอบ ข. อธิบายเพิ่มเติม คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานซื้อหรืองานจ้าง มีหน้าที่ดังนี้

(1) ตรวจรับพัสดุ ณ. ที่ทำการของผู้ใช้พัสดุนั้น หรือสถานที่ซึ่งกำหนดไว้ในสัญญาหรือข้อตกลง การตรวจรับพัสดุ ณ. สถานที่อื่น ในกรณีที่ไม่มีสัญญาหรือข้อตกลง จะต้องได้รับอนุมัติจาก หัวหน้าหน่วยงานของรัฐก่อน
(2) ตรวจรับชำนาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับพัสดุนั้น มาให้คำปรึกษาหรือส่งพัสดุนั้นไปทดลองหรือตรวจสอบ ณ. สถานที่ของผู้ชำนาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒินั้นๆก็ได้ ในกรณีจำเป็นที่ไม่สามารถตรวจนับเป็นจำนวนหน่วยทั้งหมดได้ ให้ตรวจรับตามหลักวิชาการสถิติ
(3) ให้ตรวจรับพัสดุในวันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนำพัสดุมาส่งและให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้น โดยเร็วที่สุด
(4) เมื่อตรวจถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้รับพัสดุไว้และถือว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้ส่งมอบพัสดุ ถูกต้องครบถ้วนตั้งแต่วันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนำพัสดุนั้นมาส่ง แล้วมอบแก่เจ้าหน้าที่พร้อมกับทำใบตรวจรับ โดยลงชื่อไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย ๒2ฉบับ มอบแก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง 1 ฉบับ และเจ้าหน้าที่ 1 ฉบับ เพื่อดำเนินการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบของหน่วยงานของรัฐและรายงานให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐทราบในกรณีที่เห็นว่าพัสดุที่ส่งมอบ มีรายละเอียดไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาหรือข้อตกลง ให้รายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ เพื่อทราบและสั่งการ
(5) ในกรณีที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างส่งมอบพัสดุถูกต้องแต่ไม่ครบจำนวนหรือส่งมอบครบจำแต่ไม่ถูกต้องทั้งหมด ถ้าสัญญาหรือข้อตกลงมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้ตรวจรับไว้เฉพาะจำนวนที่ถูกต้อง โดยถือปฏิบัติตาม (4) และให้รีบรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้า เจ้าหน้าที่ เพื่อแจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบภายใน ๓ วันทำการนับถัดจากวันตรวจพบ แต่ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิ์ หน่วยงานของรัฐที่จะปรับผู้ขายหรือผู้รับจ้างในจำนวนที่ส่งมอบไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องนั้น
(6) การตรวจรับพัสดุที่ประกอบกันเป็นชุดหรือหน่วย ถ้าขาดส่วนประกอบอย่างใดอย่างหนึ่ง ไปแล้วจะไม่สามารถใช้การได้โดยสมบูรณ์ ให้ถือว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างยังมิได้ส่งมอบพัสดุนั้น และโดยปกติ ให้รีบรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อแจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบภายใน 3 วันทำการนับถัดจากวันที่ตรวจพบ
(7) ถ้ากรรมการตรวจรับพัสดุบางคนไม่ยอมรับพัสดุโดยทำความเห็นแย้งไว้ให้เสนอหัวหน้า หน่วยงานของรัฐเพื่อพิจารณาสั่งการ ถ้าหัวหน้าหน่วยงานของรัฐสั่งการให้รับพัสดุนั้นไว้ จึงดำเนินการตาม (4) หรือ (5) แล้วแต่กรณี

ต้องไม่ได้ถูกสั่งให้เป็นผู้ทิ้งงาน เนื่องจากมีการกระทำการอันมีลักษณะเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือกระทำการโดยไม่สุจริต ข้อความขั้นต้นหมายถึงข้อใด
ก.ถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้ทิ้งงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
ข.ถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้ทิ้งงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
ค.ถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้ทิ้งงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี
ง.ถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้ทิ้งงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี

ตอบ ก.

จะต้องไม่ได้ถูกสั่งหรือแจ้งเวียน ให้เป็นผู้ทิ้งงาน เนื่องจากมีการกระทำการอันมีลักษณะเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือกระทำการโดยไม่สุจริตข้อความขั้นต้นหมายถึงข้อใด
ก.ถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้ทิ้งงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
ข.ถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้ทิ้งงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
ค.ถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้ทิ้งงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี
ง.ถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้ทิ้งงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี

ตอบ ง.

ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับ “การเก็บ การบันทึก การเบิกจ่าย”
ก.ลงบัญชีหรือทะเบียนเพื่อควบคุมพัสดุ แยกเป็นชนิด และแสดงรายการ ตามตัวอย่างที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
ข.เก็บรักษาพัสดุให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย และให้ครบถ้วนถูกต้องตรงตามบัญชี หรือทะเบียน
ค.ผู้จ่ายพัสดุต้องตรวจสอบความถูกต้องของใบเบิกและเอกสารประกอบ) แล้วลงบัญชี หรือทะเบียนทุกครั้งที่มีการจ่าย
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.

ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ “การยืม”
ก. การให้ยืม หรือนำพัสดุไปใช้ในกิจการ ซึ่งมิใช่เพื่อประโยชน์ของทางราชการ จะกระทำมิได้
ข. การให้ยืม หรือนำพัสดุไปใช้ในกิจการ ซึ่งมิใช่เพื่อประโยชน์ของทางราชการ สามารถกระทำได้
ค. การยืมพัสดุประเภทใช้คงรูป ให้ผู้ยืมทำหลักฐานการยืมเป็นลายลักษณ์อักษร แสดงเหตุผลและกำหนดวันส่งคืน
ง. ผู้ยืมพัสดุประเภทใช้คงรูปจะต้องนำพัสดุนั้นมาส่งคืนให้ในสภาพที่ใช้การได้เรียบร้อย หากเกิดชำรุดเสียหาย

ตอบ ข.

เมื่อครบกำหนดยืมให้ผู้ให้ยืมหรือผู้รับหน้าที่แทนมีหน้าที่ติดตามทวงพัสดุที่ให้ยืมไป คืนภายใน กี่วัน นับแต่วันครบกำหนด

ก. 5 วัน
ข. 6 วัน
ค. 7 วัน
ง. 12 วัน

ตอบ ค.

การตรวจสอบพัสดุในวันเปิดทำการวันแรก ของปีงบประมาณ ว่าการรับจ่ายถูกต้องหรือไม่ พัสดุคงเหลือมีตัวอยู่ตรงตามบัญชี หรือทะเบียนหรือไม่ มีพัสดุใดชำรุดเสื่อมคุณภาพ หรือสูญไปเพราะเหตุใด หรือพัสดุใดไม่จำเป็นต้องใช้ในหน่วยงานของรัฐ แล้วให้เสนอรายงานผลการตรวจสอบดังกล่าวต่อผู้แต่งตั้งภายใน กี่วันทำการนับแต่วันเริ่มดำเนินการตรวจสอบพัสดุนั้น
ก. เจ็ดวัน
ข. สิบห้าวัน
ค. สามสิบวัน
ง. หกสิบวัน

ตอบ ค.

การขายพัสดุครั้งหนึ่งซึ่งมีราคาซื้อหรือได้มารวมกันไม่เกิน กี่บาท
ก. 500,000
ข. 700,000
ค. 900,000
ง. 1,000,000

ตอบ ก.

ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับ “การขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์”
ก.โทรศัพท์เคลื่อนที่
ข.แท็บเล็ต
ค.โต๊ะคอมพิวเตอร์
ง.ถูกทั้งข้อ ก. และ ข้อ ข.

ตอบ ง.

หลังจากการตรวจสอบแล้ว พัสดุใดหมดความจำเป็นหรือหากใช้ในหน่วยงานของรัฐต่อไปจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากได้ดำเนินการตามข้อใด
ก.ขาย
ข.แลกเปลี่ยน
ค.แปรสภาพหรือทำลาย
ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง.

การจ่ายลงพัสดุออกจากบัญชีหรือทะเบียนต้องแจ้งให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ทราบภายในกี่วัน นับแต่วันลงจ่ายพัสดุนั้น
ก. เจ็ดวัน
ข. สิบห้าวัน
ค. สามสิบวัน
ง. หกสิบวัน

ตอบ ค.

ผู้ใดเห็นว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ ที่ออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ มีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐ การยื่นร้องเรียนดังกล่าวต้องดำเนินการภายในกี่ วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ว่า หน่วยงานของรัฐนั้นมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ
ก. เจ็ดวัน
ข. สิบห้าวัน
ค. สามสิบวัน
ง. หกสิบวัน

ตอบ ข.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *